
ที่เรียนต่อต่างประเทศ ป.ตรี ถูกที่สุด
การเรียนต่อต่างประเทศไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเสมอไป ยังมีหลายประเทศที่เปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติสามารถเรียนได้ฟรีหรือจ่ายค่าเล่าเรียนในระดับที่เข้าถึงได้ บทความนี้ APEX EDUCATION ได้คัดเลือก 6 ประเทศที่ค่าเล่าเรียนปริญญาตรีถูกที่สุด พร้อมรายละเอียดที่คุณต้องรู้จริง ๆ ก่อนตัดสินใจ
1. เยอรมนี – ผู้นำด้านการศึกษาและนวัตกรรม

เยอรมนีเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพการศึกษาและระบบมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่ง โดยมหาวิทยาลัยรัฐส่วนใหญ่เปิดสอนฟรีสำหรับทั้งนักเรียนท้องถิ่นและนักเรียนต่างชาติ
สิ่งที่ควรรู้คือ
- ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐส่วนใหญ่ไม่มีการเก็บค่าเทอม มีเพียงค่าธรรมเนียมรายภาคเรียนเล็กน้อยประมาณ 150–250 ยูโรต่อปี
- นักเรียนที่สมัครในรัฐ Baden-Württemberg ต้องเสียค่าเล่าเรียนประมาณ 1,500 ยูโรต่อปี
- ค่าครองชีพเฉลี่ยอยู่ที่ 350,000–400,000 บาทต่อปี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่นเบอร์ลินและมิวนิก
เยอรมนีมีมหาวิทยาลัยมากกว่า 40 แห่งที่ติดอันดับโลก เช่น University of Munich และ Heidelberg University จุดแข็งอยู่ที่วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และสังคมศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติให้ความสนใจสูงที่สุดในยุโรป
ด้านภาษา แม้ว่าส่วนใหญ่หลักสูตรปริญญาตรีจะใช้ภาษาเยอรมัน แต่มีจำนวนหลักสูตรภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระดับโทและเอก อย่างไรก็ตาม หากตั้งใจจะใช้ชีวิตจริง ควรมีพื้นฐานภาษาเยอรมันเพื่อความสะดวกในชีวิตประจำวัน
2. ฝรั่งเศส – เมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรม

ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าเล่าเรียนถูกที่สุดในยุโรป และยังเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกและศิลปะที่งดงาม
สิ่งที่ควรรู้คือ
- มหาวิทยาลัยรัฐเก็บค่าเล่าเรียนต่ำมากเพียงประมาณ 170 ยูโรต่อปี หรือราว 6,000–9,000 บาท
- ค่าครองชีพอยู่ระหว่าง 350,000–650,000 บาทต่อปี โดยปารีสมีค่าครองชีพสูงที่สุด ขณะที่เมืองรอง เช่น ลียง หรือมงต์เปลลิเยร์ จะถูกกว่ามาก
เมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้แก่ Sorbonne University และมหาวิทยาลัยด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมอีกหลายแห่ง จุดแข็งของการเรียนที่นี่คือความหลากหลายทางวัฒนธรรมและคุณภาพการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
การใช้ชีวิตในฝรั่งเศสยังช่วยเปิดโอกาสในการเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นภาษาที่สำคัญในเวทีโลก โดยเฉพาะยุโรปและแอฟริกา ถึงแม้จะมีหลักสูตรภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น แต่ในชีวิตประจำวันผู้คนยังนิยมใช้ภาษาฝรั่งเศส จึงควรเรียนพื้นฐานไว้เพื่อการปรับตัวที่ง่ายขึ้น
3. นอร์เวย์ – คุณภาพชีวิตสูงและธรรมชาติสมบูรณ์

นอร์เวย์เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิกที่มีคุณภาพชีวิตสูง ติดอันดับประเทศที่ปลอดภัยและสะอาดที่สุดในโลก และยังเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติได้เรียนฟรีในมหาวิทยาลัยรัฐ
สิ่งที่ควรรู้คือ
- ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐฟรีทุกระดับชั้น โดยมีเพียงค่าธรรมเนียมเล็กน้อยประมาณ 1,000–2,000 บาทต่อภาคเรียน
- ค่าครองชีพสูงมาก เฉลี่ยกว่า 500,000 บาทต่อปี
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เช่น University of Oslo และ Norwegian University of Science and Technology (NTNU) เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษจำนวนมากในระดับปริญญาโทและเอก แต่หลักสูตรปริญญาตรีบางส่วนยังสอนด้วยภาษานอร์เวย์ ดังนั้นนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเรียนฟรีจริง ๆ ควรตรวจสอบหลักสูตรให้แน่ชัด
นอร์เวย์เหมาะกับผู้ที่รักธรรมชาติ เพราะประเทศเต็มไปด้วยภูเขา ทะเลสาบ และฟยอร์ดอันสวยงาม อย่างไรก็ตาม อากาศหนาวจัดในฤดูหนาวเป็นสิ่งที่ต้องปรับตัว และค่าครองชีพสูงทำให้ต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
4. ไต้หวัน – เพื่อนบ้านที่คุณภาพการศึกษาไม่แพ้ใคร

ไต้หวันเป็นประเทศที่ใกล้ไทย เดินทางสะดวก วัฒนธรรมคล้ายกัน และค่าใช้จ่ายไม่สูงจนเกินไป
สิ่งที่ควรรู้คือ
- ค่าเล่าเรียนปริญญาตรีเฉลี่ยอยู่ที่ 99,000–122,000 บาทต่อปี
- ค่าครองชีพเฉลี่ยประมาณ 80,000–100,000 บาทต่อปี ถือว่าประหยัดมากเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก
มหาวิทยาลัยคุณภาพสูง เช่น National Taiwan University (NTU) ติดอันดับโลกในหลายสาขา และมีหลักสูตรภาษาอังกฤษมากกว่า 120 คอร์ส
การใช้ชีวิตที่นี่สะดวกสบาย อาหารรสชาติถูกปากคนไทย มีวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างจีนกับตะวันตก และเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ภาษาจีนแมนดาริน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาที่มีบทบาทมากที่สุดในโลกปัจจุบัน
5. อินเดีย – ศูนย์กลางด้าน IT และการศึกษาในราคาที่เข้าถึงได้

อินเดียอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกในใจนักเรียนไทย แต่ในด้านค่าใช้จ่ายและคุณภาพมหาวิทยาลัย อินเดียถือเป็นประเทศที่ไม่ควรมองข้าม
สิ่งที่ควรรู้คือ
- ค่าเล่าเรียนถูกมาก เพียง 12,000–90,000 บาทต่อปี
- ค่าครองชีพเฉลี่ยเพียง 140,000 บาทต่อปี
อินเดียเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยีและ IT จำนวนมาก นักศึกษาที่เรียนด้านนี้มีโอกาสไปต่อยอดในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ และอังกฤษ
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้การเรียนการสอนไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักเรียนไทย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือระบบสาธารณูปโภคและสุขอนามัยบางพื้นที่ที่อาจไม่สะดวกเท่าในยุโรป
6. มาเลเซีย – ใกล้ไทย ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล

มาเลเซียเป็นตัวเลือกที่สะดวกที่สุดเพราะอยู่ใกล้ประเทศไทย ค่าใช้จ่ายไม่สูงและมหาวิทยาลัยมีคุณภาพดี
สิ่งที่ควรรู้คือ
- ค่าเล่าเรียนปริญญาตรีเฉลี่ย 120,000 บาทต่อปี
- ค่าครองชีพประมาณ 100,000 บาทต่อปี ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
มหาวิทยาลัยต่างประเทศชื่อดัง เช่น University of Nottingham (UK) และ Monash University (Australia) เปิดสาขาในมาเลเซีย ทำให้นักเรียนสามารถเรียนหลักสูตรต่างประเทศและได้รับวุฒิจากมหาวิทยาลัยแม่ โดยไม่ต้องเดินทางไปไกล
คุณภาพชีวิตในมาเลเซียใกล้เคียงกับไทย อาหารและวัฒนธรรมคุ้นเคย การเดินทางสะดวก และยังมีสังคมนักเรียนไทยจำนวนมากที่ช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น
สรุป
ทั้ง 6 ประเทศนี้เหมาะสำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการเรียนต่อปริญญาตรีในราคาที่เข้าถึงได้ โดยแต่ละประเทศมีเอกลักษณ์และความท้าทายที่ต่างกัน เยอรมนีและฝรั่งเศสเด่นเรื่องระบบการศึกษายุโรป นอร์เวย์มีคุณภาพชีวิตสูง ไต้หวันใกล้บ้านและฝึกภาษาจีนได้ อินเดียเด่นเรื่อง IT ในราคาประหยัด ส่วนมาเลเซียสะดวกสบายใกล้ไทยและได้วุฒิจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ